วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

... อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลปล่อยผีหลอน ๆ อย่าง "วันฮาโลวีน" คิดกันไว้บ้างรึยังเอ่ยว่าฮาโลวีนปีนี้ เราจะแต่งตัวเป็น "ผี" อะไรกันดี??? ...


หลายคนอาจจะมองว่าวันฮาโลวีน เป็นเทศกาลของต่างประเทศ ไม่ใช่เทศกาลของไทย แต่ถ้าเราจะร่วมสนุกกับเทศกาลนี้ก็คงไม่ผิดอะไรหรอกค่ะ หรือถ้ากลัวว่าจะเสียดุลต่างชาติล่ะก็ เราก็แต่งเป็น "ผีไทย" ก็ได้นี่คะ ผีไทยมีให้เลือกตั้งหลายแบบแน่ะ จะหลอนแบบไหนก็จัดไปให้เต็มที่เลย
ว่าแต่ถ้าจะพูดถึง "วันฮาโลวีน" แล้ว สิ่งนึงที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "ฟักทอง" ... อืม ว่าแต่ทำไมนะ ฟักทอง เกี่ยวข้องอะไรกับวันฮาโลวีนเนี่ย???
... เรื่องราวของฟักทองกับวันฮาโลวีนนั้น มีเรื่องราวเล่ากันมาจากนิทานปรัมปราขอ​งชาวไอริชที่เล่าถึง แจ๊คจอมตืด ซึ่งเป็นนักเล่นกลจอมขี้เมา วันหนึ่งเขาหลอกล่อปีศาจขึ้นไปบนต้นไม้ และเขียนกากบาทไว้ที่โคนต้นไม้ ทำให้ปีศาจลงมาไม่ได้ จากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงกับปีศาจ "ห้ามนำสิ่งไม่ดีมาหลอกล่อเขาอีก" แล้วเขาจะปล่อยปีศาจลงจากต้นไม้ เมื่อแจ็คตายลง เขาปฏิเสธที่จะขึ้นสวรรค์ ขณะเดียวกันปฏิเสธที่จะลงนรก ปีศาจจึงให้ถ่านที่กำลังคุแก่เขา เพื่อเอาไว้ปัดเป่าความหนาวเย็นท่ามกลางความมืดมิด และแจ็คได้นำถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอนิพที่ถูกเจาะให้กลวง เพื่อให้ไฟลุกโชติช่วงได้นานขึ้น ชาวไอริชจึงแกะสลักหัวผักกาดเทอนิพ และใส่ไฟในด้านใน อันเป็นอีกสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน เพื่อระลึกถึง "การหยุดยั้งความชั่ว" Trick or Treat เพื่อส่งผลบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับ และพิธีทางศาสนาเพื่อทำบุญวันปีใหม่ แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกาพบว่า ฟักทองหาง่ายกว่าหัวผักกาดมาก จึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน หัวผักกาดจึงกลายเป็นฟักทองด้วยเหตุผลนี้เอง
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเรื่องเล่าที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับ ซาตานกำลังจะไปรับวิญญาณของคนเจ้าเล่ห์ที่ชื่อว่าเเจ็ค (อีกแล้ว) แจ๊คจึงชวนให้ซาตานดื่มเหล้าด้วยกัน และหลอกล่อให้ซาตานแปลงร่างเป็นเหรียญเพื่อนำไปจ่ายค่าเหล้า และแจ็คก็นำเหรียญนั้นไปใส่รวมไว้กับไม้กางเขน ทำให้ซาตานแปลงกลับมาเป็นร่างเดิมไม่ได้ ซาตานจึงต้องสัญญากับเเจ๊คว่าจะไม่มายุ่งกับเขาอีกเป็นเวลาหนึ่งปี และถ้าเขาตายเมื่อไหร่ ซาตานก็ไม่มีสิทธิเอาวิญญาณของเขาไป จากนั้นหนึ่งปีผ่านไป ซาตานก็กลับมาอีก คราวนี้เเจ็คหลอกล่อให้ซาตานปีนไปเก็บแอปเปิ้ลบนต้น และแอบสลักรูปกางเขนไว้บนต้นแอปเปิ้ล ซาตานจึงลงมาไม่ได้ และถูกบังคับให้สัญญาอีกตามเคยว่าจะไม่มายุ่งกับแจ๊คไปอีกสิบปี สิบปีผ่านไปนายแจ๊คตายลงแต่สวรรค์ก็ไม่ต้อนรับเพราะเป็นคนเจ้าเล่ห์ นรกก็ไปไม่ได้เพราะดันบังคับให้ซาตานสัญญาไว้ จึงต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนมีเพียงก้อนถ่านที่ซาตานให้ไว้คอยส่องแสงนำทาง และเพื่อรักษาถ่านให้ส่องสว่างนานที่สุด วิญญาณของนายแจ็คจึงคว้านหัวผักกาดแล้วใส่ก้อนถ่านลงไป คนไอริชจึงเรียกผีแจ็กกับตะเกียงว่า Jack of Lantern (และเพี้ยนมาเป็น Jack O'Lantern) ต่อมาเมื่อถึงวันฮัลโลวีนชาวเมืองจึงทำตะเกียงแจ็กด้วยการแกะสลักหัวผักกาดให้เป็นหน้าตาน่ากลัว นำไฟใส่ไว้ด้านในเพื่อขับไล่ผีแจ็กและวิญญาณต​่างๆ จนภายหลังก็เปลี่ยนจากการใช้หัวผักกาดมาเป็นฟ​ักทองเพราะหาได้ง่ายกว่า
อ่อ! เรื่องราวก็เป็นอย่างนี้นี่เอง แหม!แต่ว่าเมืองไทยเราไม่จำเป็นต้องหาฟักทองมาทำ​เป็น Jack O'Lantern หรอกค่ะ เพราะบ้านเราไม่มีเทศกาลฮัลโลวีนเหมือนฝรั่งเค้า เราเอาฟักทองมากินกันดีกว่า เพราะฟักทองนี้เป็นที่รวมของสารอาหารต่างๆ ที่สำคัญได้แก่ แถมยังต้านอนุมูลอิสระได้ด้วย แบบนี้นำมากินน่าจะดีกว่านะคะ

ไม่มีความคิดเห็น: